Credit Management System & Debt lection Negotiations
การบริหารจัดการระบบงานเครดิต และ การเจรจาเพื่อติดตามหนี้
24 ตุลาคม 2562
09.00
- 16.00 น.
**
โรงแรมโกลด์ ออร์คิด แบงค็อก (ถนนวิภาวดีฯ-สุทธิสาร)
*สถานที่จัดอบรมอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
หลักการและเหตุผล
การให้สินเชื่อแก่ลูกค้า"ต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงในการให้เครดิตแก่ลูกค้า และความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า หากบัญชีลูกหนี้มีจำนวนมากก็จะทำให้เงินจมในบัญชีลูกหนี้มาก หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนดเวลา อาจจะส่งผลถึงเงินทุนหมุนเวียนของธุรกิจไม่เพียงพอหรือธุรกิจอาจจะขาดสภาพคล่องได้ ดังนั้น การพิจารณาลูกค้าผู้ที่จะมาเป็นลูกหนี้การค้าจึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจ หากสามารถ พิจารณา การให้สินเชื่อกับ ลูกค้าที่มาซื้อสินค้าได้อย่างถูกต้องโอกาสที่จะเก็บเงินได้ครบตามกำหนดย่อมมีมากกว่า ส่วนการติดตามหนี้ต้องใช้ทั้งทักษะและประสบการณ์ สิ่งที่พบอยู่เสมอ คือ ลูกค้าชอบหาเหตุมาอ้างและไม่ยอมชำระหนี้หรือพบตัวลูกค้ายาก(ชอบหลบหน้า)ในบางกรณีอาจจะใช้โทรศัพท์ติดต่อลูกค้า ปัญหาที่พบบ่อยคือ ลูกค้าไม่ยอมรับโทรศัพท์หรือโชคดีอาจจะติดต่อลูกค้าได้แต่จะลูกค้าบ่ายเบี่ยงการชำระหนี้ เมื่อพบปัญหาเหล่าต้องหาวิธีรับมือและแก้ไขปัญหา"ทำอย่างไรให้ลูกหนี้ยอมเจรจาและยอมชำระหนี้" การใช้คำพูดและน้ำเสียงเพื่อจูงใจ หรือ โน้มน้าวให้ลูกค้ายอมชำระหนี้ตามเงื่อนไข โดยยังมีความสัมพันธ์ อันดีต่อกัน เรียกว่า"ได้ทั้งเงิน และได้ทั้งใจ ลูกค้า"อีกด้วย
หลักสูตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทราบทราบแนวทางในการบริหารสินเชื่อและวิธีการวางตัวหรือการใช้คำพูดกับลูกค้าในแต่ละสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นจริง และทราบวิธีรับมือลูกค้าต้องทำอย่างไร โดยนำทักษะการเจรจาต่อรอง (Negotiation Skills)มาประยุกต์และใช้กับลูกค้าในแต่ละสไตล์ หลักเกณฑ์ต่างๆที่นำมาใช้ในการสัมมนาครั้งนี้ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะสามารถนำจุดแข็งไปใช้ได้และขจัดข้อโต้แย้งจากลูกค้าได้โดยการนำทักษะในการเจรจาต่อรองเพื่อแก้ไขสถาการณ์และไม่เปิดช่องว่างหรือจุดอ่อนให้ลูกค้านำมาใช้เป็นข้ออ้างเพื่อบ่ายเบี่ยงการชำระหนี้ในภายหลัง และเรื่องกกมายใหม่ที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.การตามหนี้ที่เป็นธรรรมซึ่งประกาศในราชกฤษจานุเบกษา แล้วเมื่อ6มี.ค.15มีผลบังคับใช้ใน180วัน รวมถึง กฏหมายการค้ำประกันซึ่งได้แก้ไขใหม่ และประกาศใช้เมื่อ11ก.พ.2558แล้วหากธุรกิจไม่ตั้งรับหรือฝึกอบรมพนักงานในองค์กรที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ทราบกฏหมาย2ฉบับนี้อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจในภายหลังได้ ดังนั้นหลักสูตรนี้จึงมีความสำคัญ โดยผลลัพธ์สุดท้ายของการฝึกอบรม ธุรกิจจะต้องมีผลมีกำไร และมีสภาพคล่อง หนี้เสียลดลง ปัญหาหนี้สูญไม่เกิดขึ้น
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้การบริหารสินเชื่อและการจัดการบัญชีลูกหนี้ได้ถูกวิธีและมีผลงานการจัดเก็บบัญชีลูกหนี้ได้มากขึ้น
2. เพื่อพัฒนาบุคคลากร ให้เกิดความเข้าใจและสามารถนำทักษะจากการฝึกอบรมมาใช้ให้เกิดประโยขน์สูงสุด
3. เพื่อลดเวลาและลดต้นทุนในการติดตามหนี้ให้น้อยลง
หัวข้อการบรรยายและWorkshop
1.การบริหารบัญชีลูกหนี้
2.นโยบายสินเชื่อมีความสำคัญกับธุรกิจอย่างไร?(Credit
Policy)
A. มาตราฐานสินเชื่อ(Credit Standard)
- หลักเกณฑ์การพิจารณาเครดิต 5'C
- การจัดระดับของลูกค้าและวงเงินสินเชื่อ
- การผู้มีอำนาจอนุมัติวงเงินสินเชื่อ
- การใช้ประโยชน์ข้อมูลของลูกค้ามาพิจารณาสินเชื่อ
- การขอเปิดวงเงินสินเชื่อ
B.การกำหนดเงื่อนไขในการชำระเงิน (Term of payment)
C.การบริหารการเก็บเงิน (Collection Management)
- การออกจดหมายเตือน / จดหมายทวงหนี้
- Check list and reminding and lection
3. สัญญาณเตือนภัย และสาเหตุของลูกหนี้ที่เริ่มมีปัญหา
4. การควบคุมสินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพ
5. การเจรจาและวางตัวเพื่อรับมือกับลูกหนี้ 6 ประเภท
- โกรธง่าย (ใจร้อน) - เชื่องช้า (สุขุม)
- รู้ทุกเรื่อง (ชอบคนยกย่อง) - ลังเล (ไม่แน่ใจ)
- ช่างสงสัย (ไม่ไว้ใจใคร) - พูดเก่ง (ทำให้คุณหัวเสียได้)
6. กฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการตามหนี้ที่ท่านต้องทราบ
# หนี้ที่บังคับได้ และหนี้ที่บังคับไม่ได้
#
กฏหมายการค้ำประกันใหม่
# พ.ร.บ การตามหนี้ที่เป็นธรรม
ประกาศนียบัตร: บริษัท ไฮโพ เทรนนิ่ง แอนด์ คอนเซ้าท์แทนซี่ จำกัด
วิทยากร
อาจารย์องอาจ ฉันทสมบัติ
ผู้จัดการ
ฝ่ายสินเชื่อ และกฎหมาย (CREDIT ANDLEGAL MANAGER)
บริษัท ยูโร พีทูพี ไดเรคท์(ประเทศไทย) จำกัด
เขียนบทความพิเศษในวารสารภาษีบัญชีและกฎหมายธุรกิจ
"ทำอย่างไรไม่ให้เกิดหนี้เสีย จัดการอย่างไรกับหนี้ที่มีปัญหา"
เขียนหนังสือ
เรื่อง"กลยุทธ์การกระชากหนี้"
ประสบการณ์บรรยาย
หลักสูตรการเร่งรัดหนี้สินและการเจรจาต่อรองเพื่อติดตามหนี้ 29 ปี
โรงแรมโกลด์ ออร์คิด กรุงเทพฯ (ถนนวิภาวดีฯ-สุทธิสาร)
24 ตุลาคม 2562 เวลา 09.00 - 16.00 น.
บริษัท ไฮโพ เทรนนิ่ง แอนด์ คอนเซ้าท์แทนซี่ จำกัด
เบอร์ติดต่อ : 02-615-4499 ,086-318-3151
4500 (ไม่รวม ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)