หลักการและเหตุผล
บนโลกยุคใหม่เต็มไปด้วยกระแสของการเปลี่ยนแปลง การพัฒนา รวมถึงเทคโนโลยี และแน่นอนที่สุดคือการติดต่อสื่อสารทั้งใน (Communication) และนอกองค์กรเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะช่วยให้บุคลากร รวมถึงองค์กรมีความก้าวหน้า ประสบผลสำเร็จในธุรกิจ งานขาย งานบริการ และการสร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้า และการประสานงานกับทีมงานภายในองค์กรได้อย่างราบรื่น
ปัญหาที่เกิดขี้นกับพนักงานในองค์กร
- มีกรอบความคิดและทัศนคติเชิงลบที่ไม่เอื้อต่อการสื่อสาร
- ยึดตัวเองเป็นหลักในการสื่อสาร ไม่พยายามเข้าใจผู้อื่น
- ขาดทักษะในการสื่อสารกับทีมงานทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน
- ไม่ได้รับการประสานงานและความร่วมมือจากการสื่อสารที่ไม่มีประสิทธิภาพ
- ไม่ได้ฟังอย่างตั้งใจและอย่างเข้าใจ จึงจับประเด็นไม่ถูก
- ได้รับ Feedback แล้วเสียกำลังใจและไม่เกิดการปรับปรุงพัฒนา
ประโยชน์ที่จะได้รับ
- ตระหนักถึงอุปสรรถและปัญาที่เกิดขึ้นจากการสื่อสารที่ผิดพลาดและทราบวิธีที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว
- ปรับทัศนคติและกรอบความคิดด้านการสื่อสารให้เป็นเชิงบวกและสร้างสรรค์
- ใช้เทคนิคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารให้ชัดเจน ตรงประเด็นสู่เป้าหมาย
- เป็นผู้ฟังที่เข้าอกเข้าใจเพื่อสร้างเสน่ห์และความน่าสนใจในการสื่อสาร
- สำรวจตัวเอง วิเคราะห์ผู้อื่น ปรับปรุง และพัฒนาตนเองด้านการสื่อสารเพื่อการประสานงานที่ดี
- เสริมสร้างทักษะการสื่อสารเพื่อประสานงานระดับบุคคล ทั้งการฟัง การพูด
- เกิดแรงจูงใจในการทำงาน รวมทั้งการสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อหน่วยงานต่อไปในอนาคต
หัวข้อการเรียนรูู้
1. กรอบความคิดและทัศนคติในการสื่อสารเชิงบวกและสร้างสรรค์
2. อุปสรรคและปัญหาที่เกิดขึ้นจากการสื่อสารและประสานงานที่ผิดพลาด
3. เทคนิคในการสื่อสารเพื่อให้ได้ผลที่แม่นยำ
4. อาวุธสำหรับการสื่อสารเพื่อให้ได้ผลที่แม่นยำ
5. เทคนิคในการฟังอย่างเข้าอกเข้าใจเพื่อเป็นนักสื่อสารที่มีเสน่ห์
6. เทคนิคการแบ่งคน 3 ประเภทเพื่อการสื่อสารและการประสานงาน
7. การสื่อสารเพื่อให้ได้รับความร่วมมือและการประสานงานอย่างเต็มใจ
8. การให้ Feedback ที่ให้กำลังใจและสร้างความเปลี่ยนแปลง
9. การตั้งคำถามที่ดีของการสื่อสาร
10. ตระหนัก สำรวจ วิเคราะห์ ปรับปรุง พัฒนาตนเองด้านการสื่อสารและประสานงาน
รูปแบบการอบรม
การฝึกอบรมมีความหลากหลายเพื่อใ้ห้เกิดความเข้าใจได้โดยง่าย เพลิดเพลิน โดยมีความลึกซึ้งเพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจ ยอมรับและนำไปปฏิบัติตาม อีกทั้งตรงตามเป้าหมายที่ทางองค์กรได้กำหนดไว้
1. การบรรยายแบบผู้อบรมมีส่วนร่วม Participative Technique
2. ฝึกปฏิบัติทีละขั้นตอนและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับท่านอื่นๆ (Work Shop)
3. ฝึกปฏิบัติพัฒนาร่างกายและจิตใจ เพื่อเสริมบุคลิกภาพภายนอก
4. สรุปการบรรยาย ถาม-ตอบ
ระยะเวลาการจัดสัมมนา เวลา 9.00-16.00 น. (1 วัน)
อาจารย์ธนกฤต ภูษิดาอภิวัฒน์